บันทึกอนุทิน ครั้งที่ 5
วิชา การจัดประสบการณ์การศึกษาเเบบเรียนรวมสำหรับเด็กปฐมวัย
( Inclusive Education Experiences Management for Early Childhood )
อารจารย์ผู้สอน อ.กฤต แจ่มถิน
ประจำวัน พุธที่ 17 กุมภาพันธ์ 2559
เวลา 08.30 -12.30 น.
กลุ่ม 102 ห้อง 224
Knowledge (ความรู้)
ประเภทของเด็กที่มีความต้องการพิเศษ
- เรียกย่อๆ ว่า L.D. (Learning Disabilities)
- เด็กที่มีปัญหาทาการเรียนรู้เฉพาะอย่าง
- ไม่นับรวมเด็กที่มีปัญหาเพียงเล็กน้อยทางการเรียน เด็กมีปัญหาเนื่องจากความพิการ หรือความบกพร่องทางร่างกาย
สาเหตุของ L.D.
ความผิดปกติของการทำงานของสมองที่ไม่สามารถถอดรหัสตัวอักษรออกมาได้ (เชื่อม โยงภาพตัวอักษรเข้ากับเสียงไม่ได้)
กรรมพันธุ์
1.ด้านการอ่าน (Reading Disorder)กรรมพันธุ์
- อ่านหนังสือช้า ต้องสะกดทีละคำ
- อ่านออกเสียงไม่ชัด ออกเสียงผิด หรืออาจข้ามคำที่อ่านไม่ได้ไปเลย
- ไม่เข้าใจเนื้อหาที่อ่าน หรือจับใจความสำคัญไม่ได้
- อ่านช้า อ่านคำต่อคำ ต้องสะกดคำจึงจะอ่านได้
- อ่านออกเสียงไม่ชัดเจน
- เดาคำเวลาอ่าน
- อ่านข้าม อ่านเพิ่มคำ อ่านผิดประโยคหรือผิดตำแหน่ง
- อ่านโดยไม่เน้นคำ หรือเน้นข้อความบางตอน
- ผันเสียงวรรณยุกต์ไม่ได้
- ไม่รู้ความหมายของเรื่องที่อ่าน
- เล่าเรื่องที่อ่านไม่ได้ จับใจความสำคัญไม่ได้
- เขียนตัวหนังสือผิด สับสนเรื่องการม้วนหัวอักษร เช่น ม เป็น น หรือจาก ภ เป็น ถ เป็นต้น
- เขียนตามการออกเสียง เช่น ประเภท เขียนเป็น ประเพด
- เขียนสลับ เช่น สถิติ เขียนเป็น สติถิ
ลักษณะของเด็ก L.D. ด้านการเขียน
- ลากเส้นวนๆ ไม่รู้ว่าจะม้วนหัวเข้าในหรือออกนอก ขีดวนๆ ซ้ำๆ
- เรียงลำดับอักษรผิด เช่น สถิติ เป็น สติถิ
- เขียนพยัญชนะหรือตัวเลยสลับกัน
เช่น ม-น,ภ-ถ,ด-ค,พ-ผ,b-d,p-q,6-9 - เขียนพยัญชนะ ก-ฮ ไม่ได้แต่บอกให้เขียนเป็นตัวๆ ได้
- เขียนพยัญชนะ หรือ ตัวเลขกลับด้าน คล้ายมองจากกระจกเงา
- เขียนคำตามตัวสะกด เช่น เกษตร เป็น กะเสด
- จับดินสอหรือปากกาแน่นมาก *เขียนกดแรง มีลอยลบบ่อยเวลาเขียน
- สะกดคำผิด โดยเฉพาะคำพ้องเสียง ตัวสะกดแม่เดียวกัน ตัวการันต์
- เขียนหนังสือช้า เพราะ กลัวสะกดผิด
- เขียนไม่ตรงบรรทัด ขนาดตัวอักษรไม่เท่ากีน ไม่เว้นขอบ ไม่เว้นช่องไฟ
- ลบบ่อยๆ เขียนทับคำเดิมหลายครั้ง
- ตัวเลขผิดลำดับ
- ไม่เข้าในเรื่องราวการทดเลขหรือการยืมเลขเวลาทำการบวกหรือลบ
- ไม่เข้าใจหลักเลขหน่วย สิบ ร้อย
- แก้โจทย์ปัญาเลขไม่ได้
- ไม่เข้าใจค่าของตัวเลขเช่นหลักหน่วยสือ ร้อย พัน หมื่น เป็นเท่าใด
- นับเลขไปข้างหน้าหรือถอยหลังไม่ได้
- คำนวณบวก ลบ คูณ หาร โดยการนับนิ้ว
- จำสูตรคูณไม่ได้
- เขียนเลขกลับกันเช่น 13 เป็น 31
- ทดไม่เป็นยืมไม่เป็น
- ตีโจทย์เลขไม่ออก
- คำนวณเลขจากซ้ายไปขวาแทนที่จะทำจากขวาไปซ้าย
- ไม่เข้าในเรื่องเวลา
อาการที่มักเกิดร่วมกันกับ L.D.
- แยกแยะขนาดสีและรูปร่างไม่ออก
- มีปัญหาความเข้าใจเกี่ยวกับเวลา
- เขียน/อ่านตัวอักษรสลับซ้าย-ขวา
- งุ่มง่ามการประสานงานของกล้ามเนื้อไม่ดี
- การประสานงานของสายตา-กล้ามเนื้อไม่ดี
- สมาธิไม่ได้ (เด็ก L.D. ร้อยละ 15-20 มีสมาธิสั้น ADHD ร่วมด้วย)
- เขียนตามแบบไม่ค่อยได้
- ทำงานช้า
- การวางแผนงานและจัดระบบไม่ดี
- ฟังคำสั่งสับสน
- คิดแบบนามธรรมหรือคิดแก้ปัญหาไม่ค่อยดี
- ความคิดสับสนไม่เป็นขั้นตอน
- ความจำระยะสั้น/ยาวไม่ดี
- ถนัดซ้ายหรือถนัดทั้งซ้ายและขวา
- ทำงานสับสนไม่เป็นข้ันตอน
- หรือ ออทิซึ่ม (Autism)
- เด็กที่ไม่สามารถมีปฏสัมพันธ์กับผู้อื่น
- ไม่สามารถเข้าใจคำพูด ความรู้สึกและความต้องการของผู้อื่น
- ไม่สามารถที่จะสื่อสารกับคนรอบข้างและสังคม
- เด็กออทิสติกแต่ละคนจะมีเอกลักษณ์ของตนเอง
- ติดตัวเด็กไปตลอดชีวิต
- อยู่ในโลกของตนเอง *คิดอะไรในหัวเยอะ
- ไม่เข้าไปหาใครเพื่อให้ปลอบใจ
- ไม่เข้าไปเล่นในกลุ่มเพื่อน
- ไม่ยอมพูด
- เคลื่อนไหวแบบซ้ำๆ
เกณฑ์การวินิจฉัยออทิสติกองค์การอนามัยโลกและสมาคมจิตแพทย์อเมริกา
ความผิดปกติของปฏิสัมพันธ์ทางสังคม อย่างน้อย 2 ข้อ
- ไม่สามารถใช้ภาษาท่าทางสื่อสารทางสังคมกับบุคคลอื่น
- ไม่สามารถสร้างสัมพันธ์ภาพกับบุคคลให้เหมาะสมตามวัย
- ขาดความสามารถในการแสวงหาการมีกิจกรรม ความสนใจ และความสนุกสนานร่วมกับผู้อื่น
- ขาดทักษะการสื่อสารทางสังและทางอารมณ์กับผู้อื่น
- มีความล่าช้าหรือไม่มีการพัฒนาในด้านภาษาพูด
- ในรายที่สามารถพูดได้แต่ไม่สามารถที่จะเริ่มต้นบทสนทนาหรือโต้ตอบบทสนทนากับผู้อื่นได้อย่างเหมาะสม
- พูดซ้ำๆ หรือมีรูปแบบจำกัดในการใช้ภาษา เพื่อสื่อสารหรือส่งเสียงไม่เป็นภาษาอย่างไม่เหมาะสม
- ไม่สามารถเล่นสมมุติหรือลอกตามจินตนาการได้เหมาะสมกับระดับพัฒนาการ
- มีความสนใจที่ซ้ำๆ อย่างผิดปกติ
- มีกิจวัตรประจำวันหรือกฎเกณฑ์ที่ต้องทำไม่สามารถยืดหยุ่นได้ ถึงแม้ว่ากิจวัตรหรือกฎเกณฑ์นั้นจะไม่มีประโยชน์
- มีการเคลื่อนไวร่างกายซ้ำๆ
- สนในเพียงบางส่วนของวัตถุ
- นั่งเคาะโต๊ะ หรือโบกมือนานเป็นชั่วโมง
- นั่งโยกหน้าโยกหลังเป็นเวลานาน
- วิ่งเข้าห้องนี้ไปห้องโน้น
- ไม่ยอมให้เปลี่ยนสิ่งแวดล้อม
- ปฏิสัมพันธ์ทางสังคม
- การใช้ภาษาเพื่อสื่อความหมาย
- การเล่นสมมติหรือการเล่นตามจินตนาการ
- กลุ่มที่คิดด้วยภาพ (Visual Thinker)
- จะใช้การคิดแบบอุปนัย (Bottom up Thinking)
- กลุ่มที่คิดโดยไม่ใช้ภาพ (Music,Math and Memory Thinker)
จะใช้การคิดแบบนิรนัย (Top down Thinking)
Skill (ทักษะ)
- ทักษะการคิดวิเคราะห์
- ทักษะการตอบคำถาม
Application (การประยุกต์ใช้)
นำความรู้ที่ได้เรียนไปใช้ในการจัดการเรียนการสอนกับเด็กพิเศษ เราจะต้องจัดการเรียนการสอนให้เหมาะสมกับอาการของเด็กเเต่ละคน สอนให้เด็กเข้าใจและสอนให้เด็กสามารถช่วยเหลือตนเองในชีวิตประจำวันได้ เมื่อเด็กมีอาการกำเริบเราสามารถนำความรู้ที่มีมาปฐมพยาบาลเบื้องต้นได้
Technical Education (เทคนิคการสอน)
- เทคการใช้สื่อในการสอน
-เทคนิคการอธิบาย
- เทคนิคการใช้ตัวอย่าง
Self : ตั้งใจเรียน แต่งกายเรียบร้อย เข้าใจในเนื้อหาที่เรียน
Friend : ตั้งใจเรียน ให้ความร่วมมือในการตอบคำถาม
Teacher : อาจารย์สอนเข้าใจง่าย โดยการยกตัวอย่างประกอบ และมีการให้ความรู้เพิ่มเติมนอกสไลด์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น